“ลัดตรอก ออกถนน ตระเวนยล ศาสนสถาน เรือนโบราณ ในย่านเก่า สองฝั่งนคร (บางรัก-คลองสาน)”

เชิญทุกท่านร่วมเดินเท้าเที่ยวท่องย่านเก่าแห่งบางกอก 2 ฟากฝั่งพระนคร ซึ่งมีศาสนสถาน เรือนโบราณ อาคารเก่าหลายมากมายหลากหลายรูปลักษณ์ให้ไปสัมผัสอย่างรื่นรมย์ตลอด 1 วันเต็ม กับกิจกรรม…

“ลัดตรอก ออกถนน ตระเวนยล ศาสนสถาน เรือนโบราณ ในย่านเก่า สองฝั่งนคร
(บางรัก-คลองสาน)”
วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2566

กำหนดการ

08.45 น. พบกัน ณ บริเวณโถงอาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก ถนนเจริญกรุง ลงทะเบียนผู้ร่วมกิจกรรม

09.00 น.  ล้อมวงกันฟังเรื่องราวอันน่าสนใจของการไปรษณีย์และโทรเลข ร่องรอยแห่งการสื่อสารที่ใช้กันแพร่หลายในยุค”คุณเปรม-แม่พลอย”แห่งวรรณกรรมอมตะ”สี่แผ่นดิน”พร้อมชมความสง่างามข้ามกาลเวลาทางด้านสถาปัตยกรรมของอาคารและบานประตูโลหะ ลวดลายแบบอาร์ต นูโว อันเป็นเอกลักษณ์ในยุคสมัย ก่อนแวะทักทายครุฑปูนปั้นอันองอาจที่ประดับอยู่หน้าอาคาร ออกแบบโดยอาจารย์ศิลป์ พีระศรี
09.30 น. ออกเดินเท้ามุ่งสู่ตรอกหมอเพชรหมอพลอย(ซอยเจริญกรุง 43) ถนนมหาเศรษฐ์ เยี่ยมชม “บ้านรักครุฑ” ฟังเรื่องราวที่น่าสนใจของผู้ประกอบการจัดสร้างตราครุฑแห่งเดียวในย่านเจริญกรุง ซึ่งได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานจากหน่วยงานราชการและเอกชนให้จัดสร้างองค์ครุฑด้วยวัสดุต่างๆ อาทิไม้ ทองเหลือง ไฟเบอร์กลาส ฯลฯ เพื่อประดับหน้าอาคารขององค์กร หน่วยงานหรือห้างร้านที่ได้รับตราตั้งพระราชทานอนุญาตให้ดำเนินงาน พร้อมชมบ้านโบราณหลากสมัยที่ยังคงเหลือร่องรอยความงามให้ได้ชม

10.30 น. ชมพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก หรือ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โดยสถานที่นี้เป็นบ้านพักอาศัยที่ช่วยทำให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ ของชาวบางกอกที่มีฐานะปานกลางในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2(พ.ศ. 2480-2500) ชมนิทรรศการถาวรที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาของชีวิตชาวบางกอกและความเป็นมาของเขตบางรักที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมหลายชนชาติ ทั้งไทย จีน ฝรั่ง และแขก มีวิวัฒนาการและอิทธิพลจากตะวันตกต่อการปฏิรูปประเทศ รวมถึงสถานที่ต่างๆซึ่งเกี่ยวกับภูมิหลังของชุมชน

11.45 น. แยกย้ายกันรับประทานอาหารกลางวันหลากรสตามอัธยาศัยกับร้านอาหารที่ตั้งเรียงรายอยู่มากมายบริเวณปากซอยเจริญกรุง 43 และถนนเจริญกรุง
13.00 น.พบกันบริเวณปากซอยเจริญกรุง 43 ก่อนออกเดินเท้าเลียบสถานที่บนรายทางย่านถนนเจริญกรุง อาทิ Warehouse 30 ครีเอทีฟ คอมมูนิตี้ คอมเพล็กซ์ แห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 30 อีกหนึ่งโปรเจ็กต์สุดสร้างสรรค์ของ คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบชื่อดังของไทยและ คุณรังสิมา กสิกรานันท์ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Elle Decoration Thailand ที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์พื้นที่ให้ตอบสนองกิจกรรมและ Life Style ของคนรุ่นใหม่ โดยปรับโกดังเก่าๆมาเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมสมัยเก่ากับสมัยใหม่ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
ผ่านอาคารบ้านเลขที่ 1 ตรอกกัปตันบุช ถนนเจริญกรุง ซึ่งในอดีตเป็นที่ดินของรัชกาลที่ 5 ต่อมาได้พระราชทานให้แก่พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฎ ปิยมหาราชปดิวรัดา พระอัครชายาเธอในพระองค์ โปรดเกล้าฯให้พระคลังข้างที่จัดประโยชน์หาผู้เช่า โดยผู้เช่ารายแรกได้แก่บริษัทกลั่นสุราของฝรั่งเศส ต่อมาสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้ฟื้นฟูอาคารบ้านเลขที่ 1 จากการถูกทิ้งร้าง โดยเริ่มดำเนินการบูรณะตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2560 หลังบูรณะเสร็จก็เปิดทำการเป็นสถานที่รับจัดงานต่างๆ โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนอาคารนี้ให้เป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าแก่การศึกษาด้านประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอีกด้วย

13.00 น.ลงเรือข้ามฟากที่ท่าเรือสี่พระยา ซึ่งในอดีตคือปากคลองผดุงกรุงเกษมฝั่งทิศใต้ คูพระนครที่ขุดขึ้นเป็นปราการรักษาพระนครในสมัยรัชกาลที่ 4

13.20 น.ผ่านร่องรอยที่ร่วงโรยของตลาดท่าน้ำคลองสานที่เคยคึกคักเมื่อครั้งอดีต เสาะหา”ป้อมป้องปัจจามิตร” ป้อมสุดลับท่ามกลางอาคารแวดล้อมที่เหลือเป็นหลักฐานเพียงแห่งเดียวของปราการรอบพระนครชุดแนวคลองคูเมือง(คลองผดุงกรุงเกษม)ครั้งแผ่นดินรัชกาลที่ 4 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากคลองสาน ฟากฝั่งธนบุรี มีลักษณะเป็นป้อมปืนรูปดาวแปดแฉกขนาดใหญ่ที่รัชกาลที่ 4 ให้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันเรือข้าศึกทางด้านแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นป้อมขนาดใหญ่ที่สุดจากจำนวนป้อมทั้ง 8 ที่เรียงรายกันตามคลองผดุงกรุงเกษมและหลงเหลือหลักฐานให้ได้ชมในปัจจุบัน พร้อมล้อมวงกันฟังเรื่องราวของปราการป้องกันพระนครในแต่ละสมัยของประวัติศาสตร์สยามประเทศ

14.00 น.ออกเดินเท้าลัดตรอกมุ่งสู่วัดทองนพคุณ อารามโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ทองจีน ไกรฤกษ์) ได้ดำเนินการปฏิสังขรณ์เพื่อน้อมเกล้าฯถวายแด่รัชกาลที่ 3 และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบพระอุโบสถจากแบบจีนพระราชนิยมมาเป็นแบบไทยประเพณี ชมพระอุโบสถที่มีรูปลักษณ์แปลกตากับหน้าต่างรูปพัดยศพระครูสัญญาบัตรระดับพระราชาคณะที่หาชมได้ยาก ภายในพระอุโบสถมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือพระครูกสิณสังวร ผู้มีฝีมือในทางช่างและเป็นศิษย์ของขรัวอินโข่ง เรื่องเวสสันดรชาดก ระหว่างหน้าต่างเขียนเป็นโต๊ะหมู่บูชาแบบจีน ผนังด้านหลังพระประธานเขียนภาพม่านแหวกเพื่อเน้นพระประธานให้เด่นขึ้น ส่วนด้านหน้าพระประธานเขียนภาพนันทอุทยาน มีนางฟ้ากำลังเล่นน้ำ รวมถึงภาพพระภิกษุปัดกวาดลานวัด และพิจารณาอสุภกรรมฐาน ซึ่งอาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก  นักวิชาการทางด้านพุทธศาสนาและภาษาบาลี ราชบัณฑิตสาขาศาสนศาสตร์ ได้อธิบายไว้ว่า ดูภาพรวมแล้วให้แนวคิดสอดคล้องกับสำนักวิปัสสนาอันเป็นรากฐานของสำนักวัดทองนพคุณอย่างดี นับเป็นงานศิลปกรรมที่งดงามทั้งฝีมือและความคิดสร้างสรรค์

15.00 น. เยี่ยมชม“จีจินเกาะ” วัดจีนเก่าแก่ในลัทธิเต๋า ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา หากใครนั่งเรือผ่านย่านคลองสานหรือมองจากทางย่านตลาดน้อย ฝั่งพระนคร จะเห็นเจดีย์สูง 8 ชั้นโดดเด่นเป็นสง่า อยู่ในความดูแลของสมาคมเผยแผ่คุณธรรม "เต็กก่า" หน่วยงานเอกชนที่ดำเนินงานด้านการเผยแผ่คุณธรรมและงานกุศลสงเคราะห์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี พ. ศ. 2495 ในพื้นที่ขนาด 800 ตารางวา ประกอบไปด้วยศาลาแบบจีนประยุกต์ร่วมสมัยหลายหลัง เป็นการผสมผสานศิลปะทั้งไทย จีน และ ทิเบต เข้าด้วยกันและถูกจัดวางตำแหน่งตามหลักของศาสตร์ฮวงจุ้ย ชม“พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมชาตรีไทยจีนเฉลิม” เจดีย์สูง 8 ชั้น มองเห็นได้ในระยะไกล สร้างขึ้นในวาระครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งสมาคม และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เนื่องในมงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา
ภายในแต่ละชั้นของเจดีย์จะมีภาพวาดและบทกวีลัทธิเต๋า และรูปหล่อเทพเจ้าและปรมาจารย์สำคัญ ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และรูปเคารพที่ประดิษฐานในวิหารต่างๆเป็นมงคลชีวิต พร้อมชมเรือนโบราณอันงดงามทางสถาปัตยกรรม(ภายนอกอาคาร)ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่ในบริเวณวัดแห่งนี้

16.30 น. จบกิจกรรม แยกย้ายกันเดินทางกลับเคหสถานด้วยความรู้และความประทับใจเต็มเปี่ยม

***กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
นำชมโดย
-จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม
วิทยากรรับเชิญ
-ฐิติชัย อัฏฏะวัชระ(ป๊อบ) อาจารย์พิเศษด้านสื่อสารมวลชนและสารคดี ผู้สนใจด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
อัตราค่าร่วมกิจกรรม
ท่านละ 999 บาท (เก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน)/ท่าน
อัตรานี้รวม
1.ค่าพาหนะเดินทาง(เรือข้ามฟาก)
2.ค่าวิทยากรพิเศษและของที่ระลึกวิทยากร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
-คุณจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท)
โทร.0-81343-4261หรือ Line ID : นัท_nut (แอดไลน์ด้วยหมายเลข 0813434261 ก็ได้)
และคุณสิรินารถ พนมวัน ณ อยุธยา (เอิง) โทร.0-84071-8482 Line ID : siri_erng
การสำรองเข้าร่วมกิจกรรม
1.โอนเงินจำนวน 999 บาท/ท่าน เข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขุมวิท 71 ในนามนายจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา เลขที่บัญชี  931-7-02962-8 
2.เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาแอดไลน์ด้วย0813434261และส่งข้อมูลต่อไปนี้(ทั้งของท่านและเพื่อนในกลุ่มของท่าน)ให้ผู้จัดกิจกรรม 
3.หากท่านได้โอนเงินมาแล้ว แต่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมตามที่แจ้งไว้ได้ อาจมอบให้ผู้อื่นมาแทนได้โดยแจ้งให้ผู้จัดทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน ก่อนวันจัดกิจกรรม หากไม่แจ้งตามกำหนดดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน
4.รับเฉพาะผู้สนใจชาวไทย
ระเบียบในการเข้าชมสถานที่
1.กรุณาแต่งกายสุภาพเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ซึ่งไปเข้าเยี่ยมชม(ศาสนสถาน)
        -สุภาพบุรุษ(แต่งกายสุภาพ งดกางเกงขาสั้นและเสื้อไม่มีแขน)
        -สุภาพสตรี(กรุณาสวมกางเกงสุภาพ/กระโปรงคลุมเข่า/ผ้าซิ่น งดเสื้อไม่มีแขน กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น)
        - รองเท้าหุ้มส้นสวมสบาย
        - กรุณาเตรียมหมวก ร่ม แว่นตากันแดด น้ำดื่มและรองเท้าหุ้มส้นสวมสบายเพื่อความรื่นรมย์ในการเที่ยว
2.กรุณาปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ทุกแห่งที่เข้าไปเยี่ยมชม เช่น ไม่ล่วงล้ำและถ่ายภาพบางพื้นที่ถ้าไม่ได้รับอนุญาต
***โอนเงินแล้วช่วยส่งข้อมูลต่อไปนี้ให้ด้วยครับ
1.หลักฐานการโอนเงิน
2.ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น
3.หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 
4.ชื่อในFacebook และไลน์ ไอดี

ชมภาพกิจกรรมที่ผ่านมาได้ที่นี่ :)

กลุ่ม FB เที่ยวทัศนาเรือนโบราณ อาคารเก่ากับนัท จุลภัสสร

 กลุ่ม FB ร้อยรอยอดีต

 FB Fanpage ท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และการเรียนรู้

ติดต่อ จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม

โทร.0-81343-4261 Line ID : นัท_nut (แอดไลน์ด้วยหมายเลข 0813434261ก็ได้) 

Fb : นัท จุลภัสสร พนมวัน