“เยือนยลศิลปะวิเศษ เยี่ยมเขตแหล่งเรียนรู้คู่ย่านนนทบุรีฝั่งตะวันออก”(วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร-พระที่นั่งมูลมณเฑียร-ศาลากลางหลังเก่าจังหวัดนนทบุรี-พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี-พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์-วัดชมภูเวก)
ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทาง One Day Trip สัมผัสเสน่ห์แห่ง“นนทบุรี” เมืองที่มีพื้นที่ต่อแดนกับกรุงเทพมหานคร แต่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัดวาอารามและแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจมากมายให้ผู้สนใจได้มาเยี่ยมยลไปด้วยกันกับเรา กับศาสนสถานที่มีความงดงามทางศิลปกรรมชั้นเลิศและแหล่งเรียนรู้ ระดับUnseenที่น้อยคนจะได้มาสัมผัส บนพื้นที่นนทบุรีฟากตะวันออกกับกิจกรรม…
“เยือนยลศิลปะวิเศษ
เยี่ยมเขตแหล่งเรียนรู้คู่ย่านนนทบุรีฝั่งตะวันออก”
(วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร-พระที่นั่งมูลมณเฑียร-ศาลากลางหลังเก่าจังหวัดนนทบุรี-พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี-พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์-วัดชมภูเวก)
วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567
07.00 น. พบกันบริเวณหน้าร้าน 7-Eleven สาขา สยามอินเตอร์ ถนนพหลโยธิน ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) Map
(หากเดินทางมาด้วย BTS ใช้ทางออก 4) ทุกท่านสามารถซื้ออาหารเช้า กาแฟ เครื่องดื่มหลากรสในร้าน7-Eleven ตามอัธยาศัย *ลงทะเบียนผู้ร่วมกิจกรรม (กรุณาตรงต่อเวลา)
07.30 น. ล้อหมุน ออกเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศแสนสบายสู่จังหวัดนนทบุรี
09.00 น. ถึงพระที่นั่งมูลมณเฑียร ชมภาพลายรดน้ำต้นทุเรียนและการเก็บผลทุเรียน ของดีเมืองนนทบุรี บนบานหน้าต่างและนานาศิลป์ของ“พระที่นั่งมูลมณเฑียร” ตำหนักทรงไทยประเพณีที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นตำหนักหลังหนึ่งของหมู่พระตำหนักแดงในพระบรมมหาราชวัง เดิมเป็นตำหนักไม้ชั้นเดียว หลังคา 2 ตอน(แบบเรือนแฝด) หน้าบันจำหลักไม้ปิดทองประดับกระจก สมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้รื้อมาปลูกไว้ ณ วัดเขมาภิรตารามเพื่อเป็นห้องเรียนของเด็กนักเรียนชั้นโต จนถึงปีพ.ศ.2497 ได้ใช้เป็นห้องสมุดประชาชนชั่วคราว ต่อมาเมื่อห้องสมุดประชาชนย้ายไป ได้ใช้เป็นห้องสมุด ห้องเรียนของโรงเรียนกลาโหมอุทิศ และปรับใช้เป็นห้องเรียนดนตรีของโรงเรียนในปัจจุบัน
09.30 น. ยลวัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร
พระอารามหลวงโบราณริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตามประวัติระบุว่าสร้างขึ้นก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
แต่ได้ชำรุดทรุดโทรมลง ต่อในสมัยรัชกาลที่ 2
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี โปรดเกล้าฯให้เจ้าฟ้ามงกุฎ
พระราชโอรส (ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 4) ได้กราบทูลสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์
กราบทูลขอวัดเขมาฯ เป็นวัดในพระบรมราชินูปถัมภ์ของพระราชมารดา และรัชกาลที่ 4
ได้ทรงปฏิสังขรณ์ทั่วทั้งพระอารามนี้เป็นการใหญ่เพื่อฉลองพระคุณสมเด็จพระบรมราชชนนี
ทัศนาความงดงามล้ำเลิศของนานากระบวนศิลป์ของพระอุโบสถ พระประธาน
รูปปั้นพระอสีติมหาสาวก ภาพจิตรกรรมฝาผนัง พระเจดีย์ ฯลฯ
นอกจากนี้บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีศาลาจตุรมุข ซึ่งเมื่อครั้งรัชกาลที่ 5
เสด็จประพาสต้น ได้ทรงประทับแรม ณ ศาลาแห่งนี้ถึง 2
ครั้ง คือ ในปีพ.ศ. 2447 และ พ.ศ. 2449
10.15 น. กราบสักการะพระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 2 องค์ราชินูปถัมภ์การปฏิสังขรณ์วัดเขมาภิราตาราม พระบรมรูปรัชกาลที่ 4 และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของวัด อาทิ ตู้พระไตรปิฎกหลากศิลปะ พระพุทธรูปโบราณ หม้อน้ำมนต์ พระพุทธนิรันตราย ฯลฯ ซึ่งจัดแสดงอยู่บนพระตำหนักแดง อาคารทรงไทยประเพณีขนาดใหญ่ สร้างขึ้นภายในพระบรมมหาราชวังในรัชสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อพระราชทานเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ พระเชษฐภคินี(พี่สาว)พระองค์เล็ก ต่อมาเมื่อรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯให้รื้อพระตำหนักฝ่ายในภายในเขตพระราชฐานชั้นในซึ่งเป็นเครื่องไม้เพื่อเปลี่ยนเป็นตำหนักตึกทั้งหมด จึงได้ย้ายพระตำหนักแดงไปปลูกที่พระราชวังเดิม เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ 2 และพระราชโอรส(ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว) เมื่อสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชโอรสจึงโปรดเกล้าฯให้รื้อพระตำหนักส่วนที่ประทับของสมเด็จพระราชมารดา ถวายเป็นกุฏิของพระราชาคณะวัดโมฬีโลกยาราม และ รัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปปลูกเป็นกุฏิเจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตารามในเวลาต่อมา เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งสมเด็จพระชนนี ปัจจุบันวัดเขมาภิรตารามได้ปรับเปลี่ยนพระตำหนักส่วนนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ของวัด
พระตำหนักแดง - วัดเขมาภิรตาราม |
พระตำหนักแดง - พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร |
11.45 น.
รับประทานอาหารหลากรสในบรรยากาศสบายๆริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ Cook & Coff ร้านอาหารและคาเฟ่สุดพิเศษ
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามเรือนจำกลางบางขวาง นนทบุรี ใกล้ท่าน้ำนนท์
(ที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านอาหารทั่วไป แต่เป็นโครงการฝึกอาชีพและฟื้นฟูจิตใจผู้ต้องขัง
โดยพนักงานทุกคนในร้านคือนักโทษชั้นดี เหลือโทษน้อย ที่ได้รับโอกาสมาฝึกงาน
หารายได้ และเรียนรู้ทักษะการบริการ)
13.15 น. เยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์”
แหล่งเรียนรู้ภายใต้แนวคิด “การลงทัณฑ์...กับกาลเวลาที่เปลี่ยนผ่าน”
ซึ่งมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน
โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้รวบรวมวัตถุเกี่ยวกับการลงโทษและวัตถุโบราณที่พบภายในบริเวณเรือนจำต่างๆ
ทั่วประเทศ โดยจัดแสดงวิวัฒนาการด้านการราชทัณฑ์ของไทยตั้งแต่โบราณ อาทิ
เครื่องมือจารีตนครบาล อุปกรณ์การประหารชีวิตด้วยดาบ ปืน
ภาพวาดสีน้ำมันเกี่ยวกับโทษทวะดึงษ์กรรมกรณ์ (การลงโทษ 32
ประการ) อาวุธปืนโบราณ ภาพถ่ายการประหารชีวิต หุ่นรูปปั้น สิ่งของต้องห้าม
และเครื่องมือในการกระทำผิด หรือสิ่งของที่ผู้ต้องขังลักลอบนำเข้าเรือนจำ
เป็นต้น
ก่อนพักผ่อนจิบเครื่องดื่มเย็นๆดับกระหายคลายเหนื่อยพร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากฝีมือผู้ต้องขังเป็นที่ระลึกและของฝากญาติมิตร
15.00 น. เดินทางสู่“วัดชมภูเวก”เพื่อยลมณีน้ำงามทางศิลปะ ณ อารามโบราณสมัยอยุธยาตอนปลายที่สร้างโดยชาวรามัญ(มอญ)แห่งบ้านท่าทราย ชมพระธาตุมุเตาจำลอง พระเจดีย์แบบรามัญซึ่งถอดแบบมาจากพระธาตุมุเตาแห่งกรุงหงสาวดี พร้อมชมภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปแม่พระธรณีบีบมวยผมที่ได้รับการยกย่องว่างดงามอ่อนช้อยเป็นเลิศที่สุดในประเทศไทยและภาพจิตรกรรมอดีตพระพุทธเจ้า ภาพชาดกและพุทธประวัติที่สวยงามโดยปัจจุบันภาพส่วนใหญ่ลบเลือนไปมาก แต่ยังพอให้ได้ชมทั้งในพระอุโบสถหลังเก่าทรงวิลันดาและพระวิหาร พร้อมสักการะรอยพระพุทธบาทจำลองในพระมณฑปเป็นมงคลชีวิต
16.00 น. ออกเดินทางกลับ แวะส่งสมาชิกระหว่างเส้นทาง
17.00 น. เดินทางถึงหน้าร้าน 7-Eleven สาขา สยามอินเตอร์ (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ถนนพหลโยธิน ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) แยกย้ายกันเดินทางกลับเคหสถานด้วยความรู้และความประทับใจเต็มเปี่ยม
***กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
นำชมโดย
-จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท)
วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม
วิทยากรรับเชิญ
-ฐิติชัย อัฏฏะวัชระ(ป๊อบ)
อาจารย์พิเศษด้านสื่อสารมวลชนและสารคดี ผู้สนใจด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
ท่านละ 2,350
บาท (สองพันสามร้อยห้าสิบบาทถ้วน)/ท่าน
อัตรานี้รวม
1.ค่าอาหารกลางวัน/น้ำดื่ม
2.ค่าเครื่องดื่มยามบ่าย
3.ค่าพาหนะเดินทาง(รถบัสปรับอากาศ/ค่าทางด่วน)
4.ค่าประกันอุบัติภัยการเดินทางเป็นหมู่คณะ
5.ค่าของที่ระลึกวิทยากร
6.ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ (ถ้ามี)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
-คุณจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท)
โทร.0-81343-4261หรือ
Line ID : nutchulapassorn (แอดไลน์ด้วยหมายเลข
0813434261 ก็ได้)
และคุณฐิติชัย อัฏฏะวัชระ(ป๊อบ) โทร. 0-94528-9626
การสำรองเข้าร่วมกิจกรรม
1.โอนเงินจำนวน 2,350
บาท/ท่าน เข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขุมวิท 71
ในนามนายจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา เลขที่บัญชี
931-7-02962-8
2.เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาแอดไลน์ด้วย0813434261และส่งข้อมูลต่อไปนี้(ทั้งของท่านและเพื่อนในกลุ่มของท่าน)ให้ผู้จัดกิจกรรม
3.หากท่านได้โอนเงินมาแล้ว
แต่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมตามที่แจ้งไว้ได้
อาจมอบให้ผู้อื่นมาแทนได้โดยแจ้งให้ผู้จัดทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 5
วัน ก่อนวันจัดกิจกรรม หากไม่แจ้งตามกำหนดดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน
4.รับเฉพาะผู้สนใจชาวไทย
ระเบียบในการเข้าชมสถานที่
1.กรุณาแต่งกายสุภาพเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ซึ่งไปเข้าเยี่ยมชม(ศาสนสถาน/สถานที่ราชการ)
-สุภาพบุรุษ(แต่งกายสุภาพ
งดกางเกงขาสั้นและเสื้อไม่มีแขน)
-สุภาพสตรี(กรุณาสวมกางเกงสุภาพ/กระโปรงคลุมเข่า/ผ้าซิ่น
งดเสื้อไม่มีแขน กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น)
- รองเท้าหุ้มส้นสวมสบาย
- กรุณาเตรียมหมวก
ร่ม แว่นตากันแดด น้ำดื่มและรองเท้าหุ้มส้นสวมสบายเพื่อความรื่นรมย์ในการเที่ยว
2.กรุณาปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ทุกแห่งที่เข้าไปเยี่ยมชม เช่น ไม่ล่วงล้ำและถ่ายภาพบางพื้นที่ถ้าไม่ได้รับอนุญาต
***โอนเงินแล้วช่วยส่งข้อมูลต่อไปนี้ให้ด้วยครับ
1.หลักฐานการโอนเงิน
2.ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น
3.หมายเลขโทรศัพท์มือถือ
4.ชื่อในFacebook และไลน์
ไอดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น