“สืบค้นรอยประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์บนแดนดินกรุงเก่า” (วัดย่านอ่างทอง-วัดสีกุก-บ้านวัชราชัย-วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร-พระตำหนักเพนียด-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติวังจันทรเกษม-Night Museum)

ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทาง One Day Trip สัมผัสเสน่ห์กรุงเก่า“พระนครศรีอยุธยา” ใน 2 ช่วงเวลาตั้งแต่กลางวันจรดค่ำคืนในบรรยากาศของสถานที่ซึ่งหลายท่านอาจไม่เคยได้เยี่ยมเยือน ชมความงดงามทางศิลปกรรมพร้อมค้นหาความรู้หลากหลายเรื่องราวจากร่องรอยประวัติศาสตร์ที่ผู้คนในทุกระดับในสังคมรัตนโกสินทร์ได้เข้ามามีบทบาทในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงรัชกาลที่ 3-รัชกาลที่ 6 ดังที่ปรากฏในปัจจุบัน กับกิจกรรม…

สืบค้นรอยประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์บนแดนดินกรุงเก่า”

(วัดย่านอ่างทอง-วัดสีกุก-บ้านวัชราชัย-วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร-พระตำหนักเพนียด-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติวังจันทรเกษมNight Museum)

 วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2567


กำหนดการ

06.00 น. พบกันบริเวณหน้าร้าน 7-Eleven สาขา สยามอินเตอร์ (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ถนนพหลโยธิน ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) *(หากเดินทางมาด้วย BTS ใช้ทางออก 4)  *(รถบัส จะมารับ กรุณาตรงต่อเวลา) ทุกท่านสามารถซื้ออาหารเช้า กาแฟ เครื่องดื่มหลากรสในร้าน7-Eleven เติมพลังตามอัธยาศัยได้เลย *ลงทะเบียนผู้ร่วมกิจกรรม*

06.30 น. ล้อหมุน ออกเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศแสนสบาย

07.30 น. แวะรับประทานอาหารเช้าหลากรสเติมพลังตามอัธยาศัย ณ ร้านข้าวแกงบ้านสวน วังน้อย ถนนพหลโยธิน ซึ่งมีร้าน Cafe Amazon (ตั้งอยู่ละแวกข้างเคียง-สาขาตลาดเซโต้) ซื้อหาเพิ่มความกระชุ่มกระชวยยามเช้าได้

08.15 น. ออกเดินทางต่อไปยังวัดย่านอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฟังเรื่องราวเกร็ดสาระน่ารู้ทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมสมัยอยุธยา-รัตนโกสินทร์โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญพร้อมชมทัศนียภาพสองฟากฝั่งถนนและแวะให้ทุกท่านเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันบนเส้นทางการเดินทาง

09.45 น. เดินทางถึง“วัดย่านอ่างทอง” อารามโบราณสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย ในเขตตำบลบ้านใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดจุฬาโลก ได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 3 และมีเจ้านายในฝ่ายวังหน้าส่งช่างหลวงมาสร้างพระมณฑปทรงจตุรมุข ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยประเพณีและแบบกระบวนจีนอันงดงาม สักการะพระประธานหล่อสำริดศิลปะสุโขทัยปางมารวิชัยในพระอุโบสถและยลหน้าบันปูนปั้นอันวิจิตรประดับด้วยรูปเทพเจ้าในศาสนาฮินดูที่งามแปลกตา พร้อมชมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าและผ้าห่อคัมภีร์เก่าแก่สมัยอยุธยา-รัตนโกสินทร์อันงามวิเศษที่ไม่น่าพลาดชมบนพิพิธภัณฑ์ของวัด

11.00 น. ทัศนา“วัดสีกุก” วัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย เป็นที่ตั้งค่ายมังมหานรธา แม่ทัพฝ่ายใต้ของพม่าในคราวสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2  ซึ่งได้ล้มป่วยและถึงแก่กรรมที่วัดนี้ก่อนกรุงแตกเพียงไม่กี่เดือน โดยปัจจุบันได้มีการขุดค้นพบแนวกำแพงค่ายของพม่าบริเวณวัดสีกุกที่สร้างด้วยอิฐและดิน กล่าวกันว่า ศพของมังมหานรธา ได้ทำการฝังและมีการสร้างเจดีย์ไว้ที่วัดสีกุก พร้อมชมต้นสะตือยักษ์ อายุกว่า 300 ปี ซึ่งรัชกาลที่ 5 เชื้อพระวงศ์และข้าราชบริพารผู้ตามเสด็จได้แวะพักเสวยพระกระยาหารที่ใต้ต้นสะตือนี้และประทับพักแรมในคราวเสด็จประพาสต้นครั้งที่ 2

12.30 น. รับประทานอาหารกลางวันในบรรยากาศสบายๆและชมทัศนียภาพเจดีย์สุริโยทัย เจดีย์ประวัติศาสตร์แห่งวัดสวนหลวงสบสวรรค์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ “ร้านอาหารบ้านวัชราชัย” ของคุณแสงชัย สุนทรวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการอ.ส.ม.ท.

13.45 น. ออกเดินทางสู่“วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร”เดิมชื่อ วัดทะเลหญ้าหรือวัดทำเลหญ้า วัดโบราณตั้งอยู่กลางทุ่งนา ด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำป่าสักริมคลองน้ำยา (ปัจจุบันเรียกว่า คลองตะเคียนเหนือ หรือคลองขุนละคอนไชย) ใกล้กับเพนียดคล้องช้างกรมพระคชบาล สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชาเคยเป็นที่ตั้งค่ายทหารฝ่ายอยุธยา ในช่วงสงครามเสียกรุงครั้งที่ 2 ต่อมา เมื่อปีพ.ศ.2419 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ต้นราชสกุล“มาลากุล”ได้เสด็จฯไปทอดพระเนตรการคล้องช้างที่พระนครศรีอยุธยา ทรงเห็นว่าวัดชำรุดทรุดโทรม จึงทรงบริจาคพระราชทรัพย์บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะของวัดใหม่ทั้งหมด แล้วถวายเป็นพระอารามหลวง รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดบรมวงศ์อิศรวราราม" และเสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพระราชพิธีตัดลูกนิมิต จากนั้นก็เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดบรมวงศ์ต่อเนื่องกันถึง 8 ครั้ง แม้เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราชปรปักษ์สิ้นพระชนม์ถึงแล้ว 15 ปี แล้วอาคารในวัดชำรุดทรุดโทรม รัชกาลที่ 5 ก็ยังพระราชทานพระราชทรัพย์ช่วยเหลือบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา ชมสถาปัตยกรรมของอาคารเสนาสนะของวัดยุครัชกาลที่ สักการะหลวงพ่อเพชร พระประธานในพระอุโบสถ พร้อมชมภาพประวัติศาสตร์ที่หาชมได้ยากย้อนกาลเวลาสู่สมัยรัชกาลที่ 5 ในพระวิหาร

16.00 น. ชมเรือนไทยโบราณและตำหนักเพนียด อาคารสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก อาคารก่ออิฐถือปูนปูไม้กระดาน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้เป็นตำหนักที่ประทับพระอิริยาบทของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาบำราชปรปักษ์ อธิบดีกรมพระคชบาล ในคราวเสด็จฯมาเป็นแม่กองบูรณะเพนียดคล้องช้างและนำพระราชอาคันตุกะมาทอดพระเนตรการคล้องช้าง ต่อมาโดยอาคารได้ชำรุดทรุดโทรม ได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรเมื่อปีพ.ศ.2542

17.00 น. แยกย้ายกันรับประทานอาหารมื้อเย็นหลากรสตามอัธยาศัย ซึ่งรู้จักกันดีของคนพื้นที่อยุธยาว่าเป็นย่านอาหารมุสลิม Street Food รสเลิศบริเวณตลาดโต้รุ่งหน้าพระราชวังจันทรเกษม

18.00 น. นัดพบกันบริเวณหน้าวังจันทรเกษม นำพาทุกท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศ Night Museum ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติวังจันทรเกษม ซึ่งน้อยครั้งจะมีโอกาสพิเศษเปิดให้เข้าเยี่ยมชมหมู่อาคารโบราณ และโบราณวัตถุบางชิ้นในยามค่ำคืนและประดับไฟอย่างสวยงามให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจ พร้อมทอดน่องชมวัง ฟังเรื่องเล่าสนุกๆและชี้ชวนกันชมมุมต่างๆในพื้นที่จากวิทยากร

19.30 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

21.30 น. ถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ บริเวณหน้าร้าน 7-Eleven สาขา สยามอินเตอร์ (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ถนนพหลโยธิน ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) แยกย้ายกันเดินทางกลับเคหสถานด้วยความรู้และความประทับใจเต็มเปี่ยม

***กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

อัตรานี้รวม

1.ค่าอาหารกลางวัน/น้ำดื่ม

2.ค่าเครื่องดื่มยามบ่าย

3.ค่าพาหนะเดินทาง(รถบัสปรับอากาศ/ค่าทางด่วน)

4.ค่าตอบแทนล่วงเวลาคนขับรถ (O.T)

5.ค่าประกันอุบัติภัยการเดินทางเป็นหมู่คณะ

6.ค่าของที่ระลึกวิทยากร

7.ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติวังจันทรเกษม

8.ค่าน้ำดื่มตลอดวัน

นำชมโดย

-จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม

วิทยากรรับเชิญ

-ฐิติชัย อัฏฏะวัชระ(ป๊อบ) อาจารย์พิเศษด้านสื่อสารมวลชนและสารคดี ผู้สนใจด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น

อัตราค่าร่วมกิจกรรม 

ท่านละ  2,490 บาท (สองพันสี่ร้อยเก้าสิบบาทถ้วน)/ท่าน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

-คุณจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท)

โทร.0-81343-4261หรือ Line ID : นัท_nut (แอดไลน์ด้วยหมายเลข 0813434261 ก็ได้)

และคุณฐิติชัย อัฏฏะวัชระ(ป๊อบ) โทร. 0-94528-9626

การสำรองเข้าร่วมกิจกรรม

1.โอนเงินจำนวน 2,490 บาท/ท่าน เข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขุมวิท 71 ในนามนายจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา เลขที่บัญชี  931-7-02962-8

2.เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาแอดไลน์ด้วย0813434261และส่งข้อมูลต่อไปนี้(ทั้งของท่านและเพื่อนในกลุ่มของท่าน)ให้ผู้จัดกิจกรรม

3.หากท่านได้โอนเงินมาแล้ว แต่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมตามที่แจ้งไว้ได้ อาจมอบให้ผู้อื่นมาแทนได้โดยแจ้งให้ผู้จัดทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน ก่อนวันจัดกิจกรรม หากไม่แจ้งตามกำหนดดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน

4.รับเฉพาะผู้สนใจชาวไทย

ระเบียบในการเข้าชมสถานที่

1.กรุณาแต่งกายสุภาพเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ซึ่งไปเข้าเยี่ยมชม(ศาสนสถาน)

        -สุภาพบุรุษ(แต่งกายสุภาพ งดกางเกงขาสั้นและเสื้อไม่มีแขน)

        -สุภาพสตรี(กรุณาสวมกางเกงสุภาพ/กระโปรงคลุมเข่า/ผ้าซิ่น งดเสื้อไม่มีแขน กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น)

        - รองเท้าหุ้มส้นสวมสบาย

        - กรุณาเตรียมหมวก ร่ม แว่นตากันแดด น้ำดื่มและรองเท้าหุ้มส้นสวมสบายเพื่อความรื่นรมย์ในการเที่ยว

2.กรุณาปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ทุกแห่งที่เข้าไปเยี่ยมชม เช่น ไม่ล่วงล้ำและถ่ายภาพบางพื้นที่ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

***โอนเงินแล้วช่วยส่งข้อมูลต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

1.หลักฐานการโอนเงิน

2.ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น

3.หมายเลขโทรศัพท์มือถือ

4.ชื่อในFacebook และไลน์ ไอดี

ติดต่อ จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม
โทร.0-81343-4261 Line ID : นัท_nut (แอดไลน์ด้วยหมายเลข 0813434261ก็ได้) 
Fb : นัท จุลภัสสร พนมวัน







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“เลียบแลสถาปัตย์ศิลป์ รอบถิ่นกรุงเกษม เนมปราการ” (วัดโสมนัสวิหาร-เรือนหมอพร-ตลาดนางเลิ้ง-บ้านสุริยานุวัตร-วังสะพานขาว-มัสยิดมหานาค)

“ฟื้นความหลังย่านศูนย์การค้ากลางกรุง สักการะปวงปฏิมา เทวาศักดิ์สิทธิ์” ณ ย่านปทุมวัน-ราชประสงค์-ราชดำริ

“รำลึกรอยอดีตกาล สืบตำนานย่านวังหลัง“ (วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร-แนวกำแพงวังหลัง -ตลาดวังหลัง-ศาลเจ้าพ่อฉางเกลือ-พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน)

ประสบการณ์งานวิทยากรนำชมกลุ่มคณะบุคคลและองค์กรต่างๆ ของ อาจารย์นัท จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา

“นบพระ เสพศิลป์ ยินเรื่องเล่าเหล่าปวงเทวาย่านกลางพระนคร”(วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร-วัดเทพมณเฑียร(ฮินดูสมาช)-เทวสถาน(โบสถ์พราหมณ์)-วัดมหรรณพารามวรวิหาร)