”รำลึกแผ่นดินมหาเจษฎาบดินทร์ มองฉากละคร ย้อนยลรอยศิลป์ ยินเรื่องเล่าถิ่นมหากวี สืบวิถีแม่น้ำ-ลำคลองสายประวัติศาสตร์ (แม่น้ำเจ้าพระยา-คลองบางกอกน้อย-คลองบางกรวย)”

ช่วงเวลาที่ผ่านมามีนักเขียนนวนิยาย ผู้จัดละครโทรทัศน์และผู้กำกับภาพยนตร์นำเรื่องราวเหตุการณ์และบุคคลในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มาผูกเรื่องร้อยเรียง สร้างเป็นผลงานอิงประวัติศาสตร์ อาทิ บุษบาลุยไฟ ข้าบดินทร์ ฯลฯทำให้ผู้คนในสังคมได้รู้จัก เข้าใจและสัมผัสเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆในประวัติศาสตร์ในช่วงสมัยนั้นได้แจ่มชัดขึ้น ซึ่งเป็นยุคสมัยที่สยามประเทศกำลังเริ่มปรับตัวเพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน มีบุคคลร่วมยุคสมัยมากมายที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคมสยามในระยะนั้น ทั้งด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและศิลปวัฒนธรรมซึ่งน่าจะนำมาเล่าขานโดยผูกโยงกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ศาสนสถานที่เรียงรายอยู่บนสายน้ำเจ้าพระยา

จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจร่วมล่องเรือกับกิจกรรม

รำลึกแผ่นดินมหาเจษฎาบดินทร์ มองฉากละคร ย้อนยลรอยศิลป์ ยินเรื่องเล่าถิ่นมหากวี สืบวิถีแม่น้ำ-ลำคลองสายประวัติศาสตร์ (แม่น้ำเจ้าพระยา-คลองบางกอกน้อย-คลองบางกรวย)

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2566

08.30 น. พบกัน ณ ท่าเรือราชินี ข้างโรงเรียนราชินี ปากคลองตลาด ลงทะเบียนผู้ร่วมกิจกรรม

(***ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถเดินทางสู่จุดนัดหมายได้ดังนี้

-รถไฟฟ้าใต้ดินMRT ลงรถที่สถานีสนามไชย ออกทางออก 5 ท่าเรือราชินี(ข้างโรงเรียนราชินี ปากคลองตลาด)

-รถสาธารณะ(Taxi) แล้วเดินมาที่ท่าเรือราชินี(ข้างโรงเรียนราชินี ปากคลองตลาด))

08.45 น.ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา รำลึกบุคคล เหตุการณ์และช่วงเวลาที่สัมพันธ์กันกับสถานที่ประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

09.10 น เลี้ยวเรือเข้าคลองบางกอกน้อย ซึ่งในอดีตคือแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมซึ่งลดขนาดเป็นคลองภายหลังการขุดลัดบางกอกในสมัยพระไชยราชา เป็นเส้นทางสัญจรของผู้คนและเส้นทางยุทธศาสตร์มาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ปรากฏในวรรณคดีนิราศที่กวีพรรณนาไว้เกี่ยวกับเส้นทางนี้หลายเรื่องและเป็นฉากสำคัญในนวนิยาย ละครโทรทัศน์และภาพยนตร์เลื่องชื่อ อาทิ ”คู่กรรม” ชี้ชวนชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เรียงรายอยู่บนเส้นทางสายนี้

แล่นเรือผ่านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี

09.20 น. ลงเรือที่ท่าเรือหน้าสำนักงานเขตบางกอกน้อย ชมตลาดวัดทอง ตลาดโบราณกลางชุมชนที่ออกแบบโดยไร้เสาค้ำหลังคาอย่างน่าทึ่ง เดินลัดเลาะเข้าชุมชนบ้านบุเพื่อเยี่ยมชมกระบวนการทำขันลงหิน หัตถศิลป์ที่สืบทอดกรรมวิธีทางโลหกรรมมาแต่โบราณของชุมชนบ้านบุซึ่งหาชมได้ยาก

10.15 น.เยี่ยมยลวัดสุวรรณารามราชวรวิหาร พระอารามหลวงอันเก่าแก่มาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาและมาปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์

กราบขอพรหลวงพ่อศาสดา พระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัยอันศักดิ์สิทธิ์ ให้ชีวิตรุ่งเรืองประดุจทองคำล้ำค่าพร้อมชมภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องทศชาติชาดกและพุทธประวัติอันงดงามล้ำเลิศ วาดโดยช่างหลวงเรืองนามสมัยรัชกาลที่ 3 ครูทองอยู่-ครูคงแป๊ะและเหล่าศิษย์ จนได้รับการยกย่องในวงการจิตรกรรมไทยว่าเป็น”อัญมณีน้ำงามแห่งย่านบางกอกน้อย”

 ชมคลิป ตามรอยผลงานจิตรกรเอกสมัยรัชกาลที่ ๓ ครูคงแป๊ะ(หลวงเสนีบริรักษ์)-ครูทองอยู่(หลวงวิจิตรเจษฎา) ส่วนหนึ่งในกิจกรรมตามรอยละครโทรทัศน์เรื่องเยี่ยม”บุษบาลุยไฟ” เผยแพร่ออกอากาศทางไทยพีบีเอส

11.15 น. ชมวัดศรีสุดารามวรวิหาร หรือที่รู้จักกันนาม”วัดชีปะขาว” อารามเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ สมเด็จพระพี่นางในรัชกาลที่ 1 ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯให้บูรณปฏิสังขรณ์และสถาปนาวัดขึ้นใหม่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณวัด อาทิ พระพุทธรูปในพระอุโบสถ พระวิหาร รูปจำลองเท่าขนาดจริงเพื่อเป็นต้นแบบในการหล่อโลหะสร้างรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) องค์ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับนำไปประดิษฐานที่ วัดโนนกุ่ม อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการสร้างโดย สรพงษ์ ชาตรี ศิลปินนักแสดง ที่มีจิตศรัทธาจะสร้างเป็นอนุสรณ์สถาน สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมฺรังสี) และล้อมวงกันฟังเรื่องอันน่าสนใจจนเป็นตำนานของพระสุนทรโวหาร (ภู่) กวีเอกแห่งแผ่นดินสยามและกวีเอกของโลก ซึ่งได้เคยมาศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านอยู่ที่วัดนี้เมื่อครั้งยังเยาว์วัย

12.00 น.รับประทานอาหารกลางวันหลากรสในบรรยากาศสบายๆริมคลองบางกอกน้อย

13.15 น.ล่องเรือจากคลองบางกอกน้อยสู่ย่านบางกรวย ชมวัดชลอ อารามโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาประมาณรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อยตอนเหนือที่เชื่อมต่อกับคลองอ้อมนนท์และคลองบางกรวย (แม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิม) เป็นโค้งน้ำที่น้ำไหลเชี่ยวจึงมักมีอุบัติเหตุอยู่เสมอ ภายหลังจึงมีการสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตให้คนเรือได้ลดความเร็วและใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นเมื่อเดินเรือมาถึงบริเวณนี้ ยลโบสถ์เก่าแก่ศิลปะสมัยอยุธยา ฐานอาคารแอ่นโค้งท้องสำเภา(ปัจจุบันคือวิหาร) ซึ่งเป็นงานศิลปกรรมที่นิยมสร้างในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาและตื่นตากับโบสถ์เรือหงส์ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2526 โดยพระครูนันทปัญญาวิมลที่นิมิตเห็นเรือหงส์ลอยมาอยู่หน้าโบสถ์หลังเก่า (ปัจจุบันคือพระวิหาร) จึงได้เริ่มลงมือก่อสร้างโบสถ์หลังนี้ขึ้น สักการะหลวงพ่อดำ พระประธานในอุโบสถหลังใหม่พร้อมฟังตำนาน “ศาลเจ้าแม่บัวลอย"ซึ่งมีชื่อเสียงคู่วัดชลอ ถึงกับมีครูเพลงนำไปประพันธ์เป็นเนื้อร้องส่วนหนึ่งของเพลงบางกอกน้อย”ให้ครูชัยชนะ บุญนะโชติ นักร้องเพลงลูกทุ่งผู้มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์นำไปขับร้องจนได้รับความนิยมติดหูแฟนเพลง

14.30 น. ไขปริศนา”อ้อยช้าง”ต้นไม้นามแปลกที่มีความเป็นมาน่าสนใจ เหตุไฉนจึงนำมาเป็นนามวัด พร้อมเยี่ยมยลพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดบางอ้อยช้าง ซึ่งเก็บรักษาสิ่งของที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจหลายชิ้น อาทิ  สมุดข่อย สมุดไทตำรายาพื้นบ้าน  หีบและตู้พระไตรปิฎกลายรดน้ำ เครื่องมือเครื่องใช้ของชาวสวนย่านนนทบุรีฯลฯ  พร้อมชม”รอยพระพุทธบาทลอยฟ้า” ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ที่หาชมได้ยากบนศาลาการเปรียญ รับเครื่องดื่มยามบ่าย

16.00 น. ออกเดินทางล่องเรือกลับ

ประมาณการเส้นทางเดินเรือ

16.45 น. ถึงท่าเรือราชินีโดยสวัสดิภาพ แยกย้ายกันเดินทางกลับเคหสถานด้วยความรู้และความประทับใจเต็มเปี่ยม

จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ วัดศรีสุดารามวรวิหาร

***กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

นำชมโดย

-จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม

วิทยากรรับเชิญ

-ฐิติชัย อัฏฏะวัชระ(ป๊อบ) อาจารย์พิเศษด้านสื่อสารมวลชนและสารคดี ผู้สนใจด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น

อัตราค่าร่วมกิจกรรม

ท่านละ 1,999 บาท (หนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท)/ท่าน

อัตรานี้รวม

-ค่าเรือพาหนะ

-ค่าอาหารว่างยามเช้า+น้ำดื่ม

-ค่าอาหารกลางวันและน้ำดื่ม

-ค่าวิทยากรพิเศษและของที่ระลึกวิทยากร

-ค่าเครื่องดื่มยามบ่าย

-ค่าประกันอุบัติภัยการเดินทาง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

-คุณจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท)

โทร.0-81343-4261หรือ Line ID : นัท_nut (แอดไลน์ด้วยหมายเลข 0813434261 ก็ได้)

และคุณสิรินารถ พนมวัน ณ อยุธยา (เอิง)

โทร.0-84071-8482 Line ID : siri_erng

การสำรองเข้าร่วมกิจกรรม

1.โอนเงินจำนวน 1,999 บาท/ท่าน เข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขุมวิท 71 ในนามนายจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา เลขที่บัญชี  931-7-02962-8

2.เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาแอดไลน์ด้วย0813434261และส่งข้อมูลต่อไปนี้(ทั้งของท่านและเพื่อนในกลุ่มของท่าน)ให้ผู้จัดกิจกรรม

3.หากท่านได้โอนเงินมาแล้ว แต่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมตามที่แจ้งไว้ได้ อาจมอบให้ผู้อื่นมาแทนได้โดยแจ้งให้ผู้จัดทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน ก่อนวันจัดกิจกรรม หากไม่แจ้งตามกำหนดดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน

4.รับเฉพาะผู้สนใจชาวไทย

ระเบียบในการเข้าชมสถานที่

1.กรุณาแต่งกายสุภาพเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ซึ่งไปเข้าเยี่ยมชม(ศาสนสถาน)

        -สุภาพบุรุษ(แต่งกายสุภาพ งดกางเกงขาสั้นและเสื้อไม่มีแขน)

        -สุภาพสตรี(กรุณาสวมกางเกงสุภาพ/กระโปรงคลุมเข่า/ผ้าซิ่น งดเสื้อไม่มีแขน กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น)

        - รองเท้าหุ้มส้นสวมสบาย

        - กรุณาเตรียมหมวก ร่ม แว่นตากันแดด น้ำดื่มและรองเท้าหุ้มส้นสวมสบายเพื่อความรื่นรมย์ในการเที่ยว

2.กรุณาปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ทุกแห่งที่เข้าไปเยี่ยมชม เช่น ไม่ล่วงล้ำและถ่ายภาพบางพื้นที่ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

***โอนเงินแล้วช่วยส่งข้อมูลต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

1.หลักฐานการโอนเงิน

2.ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น

3.หมายเลขโทรศัพท์มือถือ

4.ชื่อในFacebook และไลน์ ไอดี

ติดต่อ จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา (นัท) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม
โทร.0-81343-4261 Line ID : นัท_nut (แอดไลน์ด้วยหมายเลข 0813434261ก็ได้) 
Fb : นัท จุลภัสสร พนมวัน



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“เยี่ยมยลแหล่งเรียนรู้สองฟากฝั่งเมืองปากน้ำ(สมุทรปราการ-พระประแดง) ทัศนาศิลป์ศาสนสถานคู่นคร สัญจรตลาดชุมชน” ณ จังหวัดสมุทรปราการ

ล่องนาวา ทัศนาวิเศษศิลป์อาราม ยินตำนานย่าน“บางกอกน้อย” ฟื้นรอยอดีตคลองงามนาม “มหาสวัสดิ์”

เลียบแลศิลป์เรือนโบราณ ศาสนสถาน อาคารประวัติศาสตร์ (ย่านราชเทวี-รองเมือง)

“เที่ยวเมืองปากน้ำ นบสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่นคร สัญจรตลาดชุมชน ยลป้อมปราการด่านสมุทร” ณ จังหวัดสมุทรปราการ

สักการะปฏิมา เทวาศักดิ์สิทธิ์ พินิจวิถีศรัทธา รำลึกวันวาน…“ย่านปทุมวัน” (วัดหัวลำโพง-มูลนิธิส่งเสริมศีลธรรมฯ-ศาลไท้เสี่ยฮุกโจ้ว(สามย่าน)-ศาลเจ้าพ่อเสือ(สามย่าน)-วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร-ศาลพระพิฆเนศ-ศาลพระสทาศิวะ Central World)