รำลึกเรื่องราวพระราชกรณียกิจ ร.๖ อันทรงคุณูปการต่อสยามประเทศ ผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งมีความงดงามทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมกับกิจกรรม…”ธีรราชากิจจานุสรณ์”

เชิญชวนรำลึกเรื่องราวพระราชกรณียกิจอันทรงคุณูปการต่อสยามประเทศของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งมีความงดงามทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมกับกิจกรรม
"ธีรราชากิจจานุสรณ์"


วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2565

ไฮไลท์

-ตื่นตากับพระภูษาอาภรณ์ส่วนพระองค์ในล้นเกล้าฯรัชกาลที่ กับหลากเรื่องราวประวัติศาสตร์เบื้องหลังชุดทรงต่างๆ

-รำลึกวีรกรรมอันหาญกล้าของเหล่าทหารอาสาในมหาสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 6 ส่งไปร่วมรบอันส่งผลให้สยามประเทศสามารถปลดพันธะสัญญาสิทธิสภาพนอกอาณาเขตกับประเทศฝ่ายอักษะบางประเทศได้สำเร็จและอวดโฉมธงไตรรงค์สู่สายตาชาวโลก

-สักการะพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศราชวรวิหารพร้อมชมความงดงามทางศิลปกรรมของตึกมนุษยนาควิทยาทาน(ชมในอาคาร)และตำหนักเพ็ชร(ชมภายนอกอาคาร) นำชมโดยพระวิทยากรผู้มากด้วยความรู้

-ไขปริศนาสัญลักษณ์ทางศิลปกรรมในสถานศึกษาซึ่มีความเป็นมาเก่าแก่กว่าร้อยปี ณ

วชิราวุธวิทยาลัยพร้อมชมนานาอาคารอันมีเอกลักษณ์ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯให้สถาปนาขึ้น

-เยี่ยมยลหมู่พระที่นั่งอันสง่างามข้ามกาลเวลาด้วยศิลปกรรมแบบตะวันตกแบบเจาะลึก ณ พระราชวังพญาไท

-จิบเครื่องดื่มเย็นๆดับกระหายคลายเหนื่อยในบรรยากาศสุดคลาสสิค ณ ร้านกาแฟนรสิงห์

กำหนดการ

08.15 น. พบกัน ณ ม้านั่งบริเวณลานหน้าสวนสราญรมย์ Map ถนนเจริญกรุง ลงทะเบียนผู้ร่วมกิจกรรม รับขนมรองท้องและน้ำดื่ม

วิธีการเดินทางไป สวนสราญรมย์

08.30 น. เริ่มกิจกรรม ชมความร่มรื่นแมกไม้นานาพันธุ์ของสวนสราญรมย์ ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังสราญรมย์ ตั้งอยู่นอกกำแพงพระบรมมหาราชวัง ด้านทิศตะวันออก พระราชวังแห่งนี้รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้สร้างในปีพ.ศ. 2409 ตรงบริเวณตึกดินเก่า เพื่อเป็นที่ประทับหลังทรงสละราชสมบัติให้พระราชโอรสแล้ว แต่ยังสร้างไม่เสร็จก็ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน จนมาแล้วเสร็จในรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระราชทานให้ใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอหลายพระองค์เมื่อแรกเสด็จจากวังหลวงก่อนที่วังส่วนพระองค์จะสร้างเสร็จ ต่อมาใช้เป็นสถานที่รับพระราชอาคันตุกะจากต่างแดน เช่น เจ้าชายออสคาร์ พระราชโอรสแห่งกษัตริย์สวีเดนในปีพ.ศ. 2427 ซึ่งเจ้าชายพระองค์นี้ทรงบันทึกไว้ถึงความงดงามของพระราชอุทยานแห่งนี้ว่า งดงามแปลกตา มีสถานที่เลี้ยงสัตว์และนก

ต่อมาในปีพ.ศ. 2447 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร (ต่อมาคือรัชกาลที่ 6)โปรดเกล้าฯใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมวิชาทหารแก่มหาดเล็กรักษาพระองค์ และเป็นศูนย์กลางขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และแนวความคิดใหม่ๆ ในนาม ทวีปัญญาสโมสรและเมื่อทรงขึ้นครองราชย์ทรงใช้เป็นที่จัดงานฤดูหนาวประจำปี

09.00 น. เยี่ยมยล พิพิธภัณฑ์รัชกาลที่ 6” พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในความดูแลของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ตั้งอยู่ในอาคารราชวัลลภ ซึ่งงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2466 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามอาคารและได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.2467 โดยพิพิธภัณฑ์รัชกาลที่ 6 จัดแสดงอยู่บนอาคารชั้นที่ 2-3 ของอาคารราชวัลลภ ประกอบด้วย ห้องจัดแสดงชั้น ห้องพระบารมีปกเกล้า

ประกอบด้วย

1.ส่วนจัดแสดงเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

2.ส่วนจัดแสดงพระราชประวัติ เป็นการจัดแสดงเรื่องราวพระราชประวัติ ตั้งแต่พระราชสมภพ เมื่อปี พ.ศ.2423 จนกระทั่งเสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ.2468

3.ส่วนจัดแสดงพระราชกรณียกิจ แสดงพระราชกรณียกิจด้านต่างๆ รวมถึง พระราชกรณียกิจด้านเสือป่า ซึ่งเป็นรากฐานของกำลังสำรองในปัจจุบัน 

4.ส่วนจัดแสดงพระปรีชาชาญด้านการทหาร นำเสนอ เรื่องราวการที่พระองค์ทรงตัดสินพระทัยเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 และจัดแสดงเรื่องราวของยุวชนทหาร ซึ่งก่อตั้งขึ้นในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม โดยนำรากฐานมาจากเสือป่า

ชั้นที่ 3 ชื่อห้องรามจิตติ เป็นห้องจัดแสดงของใช้ส่วนพระองค์ ฉลองพระองค์ ฉลองพระบาท พระมาลา และเครื่องหมายต่างๆ ซึ่งหน่วยบัญชาการกำลังสำรองได้รับมอบจากสำนักพระราชวังตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 ในห้องชั้น 3 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปจำลอง รัชกาลที่ 6 ทรงชุดเสือป่าราบหลวง ซึ่งจัดทำขึ้นใหม่ การจัดแสดงในห้องนี้เป็นการจำลองบรรยากาศห้องทรงงานของพระองค์ท่าน จัดแสดงลายพระหัตถ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มี ธงมหาศาลทูลธวัช (ธงเสือป่า) และ ธงยุวชนทหาร จัดแสดงไว้ด้วย และบริเวณระเบียงด้านนอกของชั้น 3 นี้ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นพระบรมมหาราชวังได้อย่างสวยงาม

ด้านหน้าห้องรามจิตติ มี รูปหล่อพระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต หรือที่เรียกขานกันว่า เจ้าคุณนรฯท่านเคยเป็นมหาดเล็กรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยานรรัตนราชมานิต (พระยาพานทอง) และได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรี เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ท่านได้อุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล และครองสมณเพศจนมรณภาพ

10.15 น. ออกเดินทางจากหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน แวะสักการะและรำลึกวีรกรรมทหารหาญผู้สละชีพ ณอนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1

ตั้งอยู่ ณ มุมสนามหลวงด้านทิศเหนือ เป็นอนุสรณ์แก่ทหารไทยที่ไปร่วมรบในสมรภูมิ ยุโรป เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2457 สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อใช้เป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่และใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของเหล่าทหารผู้กล้า ที่เข้าร่วมรบกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยครั้งนั้นมีนายพลตรี พระยาพิไชยชาญฤทธิ์ (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เป็นหัวหน้าทูตทหาร ภายหลังเมื่อสงครามสงบ ฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดยมีจำนวนทหารผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นจำนวนมาก อนุสาวรีย์ทหารอาสาได้รับการออกแบบโดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ตัวอนุสาวรีย์เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะแบบศิลปะประยุกต์จากสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย ซึ่งมีต้นเค้าจากศาสนสถานของชวาภาคกลางที่เรียกว่า จันทิ มีจารึกกล่าวถึงสาเหตุที่ไทยต้องเข้าร่วมสงคราม พร้อมทั้งรายนามผู้เสียชีวิต โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงประกอบพิธีบรรจุอัฐิทหารอาสาที่ฐานอนุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2462 และโปรดพระราชทานนามเป็นอนุสรณ์ ถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า อนุสาวรีย์ทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1และทางราชการได้ถือเอาวันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นวันประกอบพิธีวางพวงมาลา

10.30 น. สักการะพระบรมราชสรีรังคาร

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธชินสีห์ พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย พระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ส่งผลให้พระอารามแห่งนี้ถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 6 ฟังเรื่องราวอันน่าสนใจ ร่วมรำลึกพระราชกรณียกิจอันเกี่ยวกับการทำนุบำรุงการพระศาสนาในรัชสมัยของพระองค์ พร้อมเยี่ยมชมอาคารที่ก่อสร้างขึ้นในรัชสมัยซึ่งมีความงดงามทางสถาปัตยกรรมอย่างยิ่ง อาทิ ตำหนักเพ็ชร(ชมภายนอกอาคาร) ตึกมนุษยนาควิทยาทาน(ชมภายในอาคาร) ฯลฯ

12.00 น. อิ่มอร่อยกับอาหารไทยเลิศรส ณ ร้านอาหาร จั-น-ท-ร์-ร-พี

13.15 น. ยลวชิราวุธวิทยาลัยโรงเรียนชายล้วนที่ได้รับแนวคิดด้านการศึกษาจากอังกฤษ อายุกว่า 100 ปี เป็นสถานศึกษาที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สถาปนาขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ทรงทดลองการจัดการศึกษาของชาติ ในลักษณะเดียวกับการที่ทรงตั้งดุสิตธานีสำหรับทดลองการปกครองในระบอบประชาธิไตยแล้ว ยังมีพระราชดำริอย่างใหม่ในการสร้างโรงเรียนแทนวัดด้วย เนื่องจากทรงเล็งเห็นว่าในรัชสมัยของพระองค์มีพระอารามหลวงอยู่มากแล้ว หากสถาปนาพระอารามหลวงขึ้นอีก ก็จะเป็นพระราชภาระในการบูรณปฏิสังขรณ์ อีกทั้งทรงเห็นว่าสิ่งจำเป็นในขณะนั้นคือการให้การศึกษาแก่ราษฎร อันจะนำพามาซึ่งความเจริญแก่ชาติบ้านเมืองในอนาคต โดยทรงมอบหมายให้นายช่างออกแบบของกรมศิลปากรจัดการออกแบบก่อสร้างหอสวด(หอประชุม)และหอนอนของนักเรียนให้แล้วเสร็จ และได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 750,000 บาท เพื่อจัดสร้างโรงเรียนถาวรด้วยสถาปัตยกรรมไทยอันวิจิตร ชมหอสวดหรือหอประชุมซึ่งตั้งอยู่กลางพื้นที่ของโรงเรียน เป็นอาคารรูปทรงโกธิกที่ผสานรูปแบบศิลปกรรมไทยตามแนวคิดของศาสนสถานในพระพุทธศาสนาไว้อย่างกลมกลืน หน้าบันของหอประชุมทั้ง 4 ด้านจำหลักไม้เป็นสัญลักษณ์แทนองค์เทพทั้งสี่ในศาสนาฮินดู หอประชุมนี้จึงเปรียบเสมือนวิมานของทวยเทพ และเป็นที่ประชุมสวดมนต์ไหว้พระของนักเรียน ประกอบพิธีกรรมสำคัญของโรงเรียนสืบมาจนปัจจุบัน และเยี่ยมชมอาคารอันงดงามมีเอกลักษณ์ที่ผสมผสานศิลปกรรมแบบตะวันออก-ตะวันตกในบริเวณโรงเรียน อาทิ ตึกวชิรมงกุฎ คณะจิตรลดา (Chitrlada House) คณะพญาไท (Phyathai House) หอนาฬิกา ฯลฯ

15.00 น. ฟังเรื่องราวอันน่าสนใจของพระราชวังพญาไท

พระราชฐานซึ่งตั้งอยู่ที่ริมคลองสามเสน ตื่นตากับความงดงามทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมในหมู่พระที่นั่งและอาคารต่างๆในพระราชวังพญาไท อาทิพระที่นั่งพิมานจักรี พระที่นั่งไวกูณฐ์เทพยสถาน เรือนเมขลารูจี พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ ฯลฯ พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังแห่งนี้ คือพระมหานาคชินะวรวรานุสรณ์มงกุฎราช (พระพุทธรูปประจำพระชนมวารรัชกาลที่ ๖) และ ศาลท้าวหิรัญยพนาสูร

16.30 น. จิบเครื่องดื่มเย็นๆดับกระหายคลายเหนื่อย ล้อมวงกันฟังเกร็ดสาระน่ารู้ต่างๆในสมัยรัชกาลที่ 6 ณ ร้านกาแฟนรสิงห์ ณ วังพญาไท Map

17.00 น. จบกิจกรรม แยกย้ายกันเดินทางกลับเคหสถานด้วยความรู้และความประทับใจเต็มเปี่ยม

***กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***

นำชมโดย

-จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา(นัท) วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม

-วิทยากรรับเชิญ อาจารย์พิษณุ กมลเนตร์ ครูผู้ช่วยกำกับคณะวชิราวุธวิทยาลัย

อัตราค่าร่วมกิจกรรม

ท่านละ 1,960 บาท

(หนึ่งพันเก้าร้อยหกสิบบาทถ้วน)/ท่าน

อัตรานี้รวม

1.ค่าอาหารและน้ำดื่ม (มื้อเช้า/มื้อกลางวัน)

2.ค่าเครื่องดื่ม(เช้า/บ่าย)

3.ค่าพาหนะ(ระหว่างกิจกรรม)

4.วิทยากร

5.หูฟังHeadset

6.ค่าเข้าชมพระราชวังพญาไท (ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ต้นปี 2565)

สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา(นัท)

โทร.0-81343-4261หรือ Line ID : นัท_nut (แอดไลน์ด้วยหมายเลข

0813434261 ก็ได้)

และคุณสิรินารถ จันทรวงศา (เอิง)

โทร.0-84071-8482

Line ID : siri_erng

การสำรองเข้าร่วมกิจกรรม

1.โอนเงินจำนวน 1,960 บาท/ท่าน เข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ (จำกัด) มหาชน สาขาสุขุมวิท 71 ในนามนายจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา เลขที่บัญชี 931-7-02962-8

2.เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาโทรศัพท์หรือส่ง SMS ยืนยันเข้าร่วมกิจกรรมที่ โทร.0-81343-4261 หรือทางกล่องข้อความ(inbox)ในเฟซบุ๊ค นัท จุลภัสสร หรือ Line ID : นัท_nut (แอดไลน์ด้วยหมายเลข0813434261ก็ได้)โดยระบุชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อสะดวก ชื่อในเฟซบุ๊คหรือ Line ID พร้อมแนบภาพถ่ายสลิปรายการโอนเงินมาด้วย โดยเขียนชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ของท่าน รวมถึงของผู้ร่วมคณะท่านในใบสลิปอย่างชัดเจน เพื่อความสะดวก ในการตรวจสอบของผู้จัดกิจกรรม

3.หากท่านได้โอนเงินมาแล้ว แต่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมตามที่แจ้งไว้ได้ อาจมอบให้ผู้อื่นมาแทนได้โดยแจ้งให้ผู้จัดทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน ก่อนวันจัดกิจกรรม หากไม่แจ้งตามกำหนดดังกล่าวถือว่าสละสิทธิ์ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน

4.รับเฉพาะผู้สนใจชาวไทย

ระเบียบในการเข้าชมสถานที่

1.กรุณาแต่งกายสุภาพเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ซึ่งไปเข้าเยี่ยมชม

-สุภาพบุรุษ(แต่งกายสุภาพ งดกางเกงขาสั้นและเสื้อไม่มีแขน)

-สุภาพสตรี(กรุณาสวมกางเกงสุภาพ/กระโปรงคลุมเข่า/ผ้าซิ่น งดเสื้อไม่มีแขน กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น)

- รองเท้าหุ้มส้นสวมสบาย

- กรุณาเตรียมหมวก ร่ม แว่นตากันแดด น้ำดื่มและรองเท้าหุ้มส้นสวมสบายเพื่อความรื่นรมย์ในการเที่ยว

2.กรุณาปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ทุกแห่งที่เข้าไปเยี่ยมชม เช่น ไม่ล่วงล้ำและถ่ายภาพบางพื้นที่ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

โอนเงินแล้วช่วยส่งข้อมูลต่อไปนี้ให้ด้วยครับ
1.หลักฐานการโอนเงิน
พร้อมชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ชื่อในFacebook และไลน์ ไอดี
2.หลักฐานการฉีดวัคซีนครบอย่างน้อย 2 เข็ม
3.หลักฐานการตรวจATKรายบุคคล (กรุณาส่งผลก่อนวันเดินทาง 2 วัน)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“เลียบแลสถาปัตย์ศิลป์ รอบถิ่นกรุงเกษม เนมปราการ” (วัดโสมนัสวิหาร-เรือนหมอพร-ตลาดนางเลิ้ง-บ้านสุริยานุวัตร-วังสะพานขาว-มัสยิดมหานาค)

“ฟื้นความหลังย่านศูนย์การค้ากลางกรุง สักการะปวงปฏิมา เทวาศักดิ์สิทธิ์” ณ ย่านปทุมวัน-ราชประสงค์-ราชดำริ

“รำลึกรอยอดีตกาล สืบตำนานย่านวังหลัง“ (วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร-แนวกำแพงวังหลัง -ตลาดวังหลัง-ศาลเจ้าพ่อฉางเกลือ-พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน)

ประสบการณ์งานวิทยากรนำชมกลุ่มคณะบุคคลและองค์กรต่างๆ ของ อาจารย์นัท จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา

“นบพระ เสพศิลป์ ยินเรื่องเล่าเหล่าปวงเทวาย่านกลางพระนคร”(วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร-วัดเทพมณเฑียร(ฮินดูสมาช)-เทวสถาน(โบสถ์พราหมณ์)-วัดมหรรณพารามวรวิหาร)